10 ข้ออ้างยอดฮิต เมื่อต้อง (แอบลา) ไปสัมภาษณ์งาน
19-พ.ค.-17
คัมภีร์เทพ IT
คงไม่ใครบอกหัวหน้างานปัจจุบันว่าจะลาไปสัมภาษณ์งานจริงไหม? คนไอที (และคนสายอาชีพอื่นๆ) หาข้ออ้างอะไรกันบ้างเพื่อที่จะลางานให้สมเหตุสมผล ก็แล้วแต่ความช่ำชองของแต่ละบุคคล เนียนบ้างไม่เนียนบ้างก็ว่ากันไป ข้ออ้างยอดฮิตเมื่อต้อง (แอบลา) ไปสัมภาษณ์งานมีอะไรบ้าง มาดูกัน!
- ป่วย (ด้วยสารพัดโรค)
เป็นไข้ ท้องเสีย ไมเกรน ปวดท้องประจำเดือนมา ถือเป็นข้ออ้างสุดคลาสสิคที่นิยมใช้กันมากสุดใน 3 โลก เพราะเป็นข้ออ้างที่มีความเนียนกว่าข้ออื่นๆ มีข้อกังขาน้อยมากๆ แต่ถ้าคุณอยู่ในองค์กรที่ตั้งกฎว่าต้องยื่นใบรับรองแพทย์ทุกครั้งที่ลาป่วย ให้ข้ามไปดูข้อต่อไปเลย
- มีกิจธุระต้องไปติดต่อหน่วยราชการ
อันนี้ถือว่าค่อนข้างเนียน ข้ออ้างที่ใช้กันบ่อย คือ เอกสารสำคัญสูญหายต้องไปแจ้งความ หรือ ต้องไปทำเอกสารใหม่ แต่ก็มีเอกสารบางอย่างที่สูญหายแล้วไม่ต้องแจ้งความก็ได้ เช่น บัตรประชาชน แผ่นป้ายทะเบียนรถ เป็นต้น ดังนั้น เช็คข้อมูลให้ดีๆ ก่อนอ้างเอกสารที่เรา (อยาก) จะให้มันหายไปจากโลกนี้
- ไปงานที่ต่างจังหวัด
ไม่ว่าจะ งานบวช งานแต่ง งานแซยิด งานขึ้นบ้านใหม่ งานศพ (อันนี้ดูแรงไปนิดแต่ไม่มีใครว่าแน่นอน) หรืออะไรก็ตามอ้างไปเถอะ ถ้าคุณจะใช้ข้ออ้างข้อนี้คุณต้องวางแผนลางานล่วงหน้า เพราะโดยปกติงานเหล่านี้ต้องได้รับแจ้งล่วงหน้า ยกเว้นงานศพ
- รถเสีย
สำหรับคนมีรถถือว่ามีข้ออ้างได้เยอะกว่าคนไม่มีรถสักหน่อย ยิ่งใครบ้านไกลมากๆ นี่เรียกว่าลาได้แบบเนียนที่สุด เพราะถ้ารถเสียก็เป็นที่เข้าใจได้ว่าการจะเดินทางมาทำงานต่อคงไม่ใช่เรื่องที่สะดวกนัก แต่ถ้าคุณจะอ้างว่า รถชน อันนี้ต้องระวังสักหน่อย เพราะถ้าวันรุ่งขึ้นคุณขับรถไปทำงานแล้วบังเอิญจอดข้างๆ รถเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้า แต่รถไม่มีบาดแผลสักนิด มันจะดูไม่เนียน
- พาพ่อแม่ไปหาหมอตามนัด
ข้ออ้างนี้ คนที่เป็นหัวหน้าหรือ HR เองก็คงจะคัดค้านลำบาก และดูจะใจร้ายเกินไป หากไม่อนุญาติ ถ้าจะอ้างเหตุลนี้ควรแจ้งหัวหน้าตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะเหมือนมีใบนัดหมายแล้วเรียบร้อย ถ้าหัวหน้าคุณเป็นคนที่ใส่ใจลูกน้อง เขาอาจจะถามคุณว่า พ่อ/แม่ป่วยเป็นอะไร อาการเป็นยังไงบ้าง (บลาๆ) ซึ่งคุณต้องเตรียมคำตอบไว้ด้วย จะได้ไม่ตะกุกตะกักให้โดนจับพิรุจได้
- หยุดเลี้ยงลูก/ลูกป่วย (ยังไม่มีลูก ข้ามข้อนี้ไปได้เลย)
ถือเป็นข้อได้เปรียบของคนมีลูกเล็กๆ เพราะจำเป็นต้องมีคนดูแล ถ้าอ้างว่าพี่เลี้ยงเด็กหรือคนดูแลไปธุระ ก็ต้องเป็นหน้าที่พ่อแม่ที่ต้องอยู่เลี้ยงดูลูกหรือต้องพาลูกไปหาหมอโดยเร่งด่วน ยิ่งกรณีลูกเจ็บป่วยแบบนี้ลาได้แบบไร้ข้อกังขา ยิ่งถ้าหัวหน้าที่มีลูกด้วยแล้ว น่าจะเข้าใจหัวอกเราได้ดีกว่าคนโสด แต่เรื่องการอ้างลูกป่วย ถ้ามองอีกมุมก็เหมือนกับแอบแช่งลูกตัวเองเลย
- ปัญหาเรื่องบ้านๆ
ขอเหมารวมปัญหาต่างๆ เรื่องเกี่ยวกับ “บ้านๆ” ในหัวข้อนี้เลยทีเดียวแล้วกันไม่ว่าจะ ท่อประปาแตก ไฟช๊อต มาคนมางัดบ้าน รั้วพัง บ้านทรุด หลังคาถล่ม ทั้งหลายแหล่ งัดมาใช้ได้เลยบ้านมีตั้งหลายส่วนจริงมั้ย แต่อย่าบ่อยมากก็แล้วกัน
- อกหักรักคุด
ข้อนี้ถือเป็นข้ออ้างแบบใหม่ เข้ากับยุคสมัยนี้จริงๆ เพราะเป็นที่พูดถึงในวงกว้างช่วงไม่กี่ปีมานี้ แต่ก่อนจะใช้เหตุนี้ก็ระวังให้มากเพราะไม่รู้ว่าหัวหน้าคุณคิดเห็นอย่างไร มีใครในแผนกรู้หรือเปล่าว่าคุณกำลังมีแฟนอยู่ ถ้าไม่มีการปูเรื่องไว้ก่อนล่วงหน้าก็น่าเชื่อถือยากสักหน่อย แต่คนส่วนใหญ่ก็เข้าใจได้ว่า คนอกหัก คงไม่มีกะจิตกะใจในการทำงานหรือคงทำได้ไม่เต็มร้อย แต่การอ้างเหตุผลข้อนี้อาจทำให้คุณถูกมองว่า ไม่มีความรับผิดชอบหรือไม่มีวุฒิภาวะพอที่จะแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว
- ลาพักร้อน
ข้อนี้ถือเป็นสิทธิโดยชอบธรรมของพนักงานอยู่แล้ว แต่ก่อนใช้ก็ต้องดูสไตล์หัวหน้าด้วยว่า ปกติให้ลาง่ายๆ หรือชอบถามให้ระบุสาเหตุละเอียดยิบ ถ้าเป็นแบบหลังและคิดว่า ข้อนี้มีโอกาสไม่สำเร็จสูงก็ลองใช้ข้อถัดไปดู
- ลาแบบแลกวันหยุดหรือลาแบบไม่รับเงินเดือน
ข้อนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัทเช่นกัน ว่าจะยอมให้พนักงานลาแบบแลกวันหยุดหรือลาแบบไม่รับเงินเดือน รึเปล่า จะได้ไม่มีข้อกังวลใจ และเชื่อว่าส่วนใหญ่ลาแบบนี้มักลาได้เพราะบริษัทไม่รู้สึกสูญเสียผลประโยชน์
จุดมุ่งหมายของบทความนี้ ทีมงานเทคสตาร์ไม่ได้สนับสนุนให้ใช้อย่างพร่ำเพรื่อ ใช้เมื่อตอนจำเป็นจริงๆ เท่านั้น และไม่ว่าจะเลือกใช้ข้ออ้างเหล่านี้หรืออยากลองใช้ข้ออ้างไหน ก็คิดให้ดีๆ เพราะการลางานบ่อยๆ ก็กระทบกับ Performance ได้เช่นกัน ไม่งั้นจะกลายเป็น งานใหม่ก็ยังไม่ได้ แถม Performance ที่ทำงานก็ไม่ดี ระวังชีวิตจะพังเอาง่ายๆ ส่วนใครกำลังจะไปสัมภาษณ์งานที่ใหม่ก็ขอให้เลือกใช้ได้ตามที่สบายใจ เอาที่เนียนและไม่โดยจับได้ละกันเนอะ
อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ
![]() |
บทความที่เกี่ยวข้อง